ภาพรวมระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงต่อเนื่อง

ภาพรวมระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงต่อเนื่อง

ภาพรวมระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเส้นทางเพิ่มในฝั่งตะวันตก หลังระดับน้ำลดลง

ภาพรวมระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงต่อเนื่อง
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม กทม. สรุปสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 13 ธันวาคม ว่าระดับน้ำเหนือที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดได้ 1.81 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวาน 7 เซนติเมตร ส่วนน้ำทุ่ง ที่คลองหกวาสายล่าง (นอกเขต กทม.) ระดับน้ำลดลง 5 เซนติเมตร คลองมหาสวัสดิ์ (นอกเขต กทม.) ระดับน้ำลดลง 3 เซนติเมตร ด้านดอนเมือง ระดับน้ำลดลง 8 เซนติเมตร ขณะที่ภาพรวมระดับน้ำในคลองต่างๆ ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำลดลงเป็นลำดับ 1-5 เซนติเมตร ส่วนภาพรวมระดับน้ำในคลองสายหลัก ฝั่งพระนคร ระดับน้ำลดลงเป็นลำดับ 3-5 เซนติเมตร

เปิดเส้นทางเพิ่มในฝั่งตะวันตก หลังระดับน้ำลดลง
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล สรุปเส้นทางการจราจร ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2554 เวลา 07.00 น. จากสถานการณ์ระดับน้ำลดลง เปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการ ในฝั่งทิศตะวันตก (1.) ถนนบรมราชชนนี ขาเข้า - ขาออก เปิดการจราจรช่องทางคู่ขนาน ตลอดสายถึงสุดเขตนครบาล (2.) ถนนพุทธมณฑล สาย 3 เปิดการจราจรตลอดสาย (มีน้ำท่วมขังเป็นระยะ ระดับน้ำความสูงประมาณ 10-20 ซ.ม.)

ข้อมูลจาก :

เปิดเทอมวันแรกคึกคักการจราจรทั่วกทม.ติดหนึบ

เปิดเทอมวันแรกคึกคักการจราจรทั่วกทม.ติดหนึบ

สภาพการจราจรวันนี้ซึ่งเป็นการเปิดภาคเรียนการศึกษา แบบเต็มรูปแบบในกทม.ทำให้รถติดขัดเป็นอย่างมาก หลายเส้นทางหลักเป็นอัมพาต

สภาพการจราจรในช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งเป็นการเปิดภาคเรียนการศึกษา แบบเต็มรูปแบบและเป็นวันทำงานวันแรก ทางกองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. รายงานว่า ปริมาณรถ เริ่มติดสะสมตามถนนสายหลักสำคัญ อาทิ บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงแยกอโศก มีปริมาณรถมาก รถเริ่มติดสะสมเป็นระยะทางยาว ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สะพานพระราม 7 มุ่งหน้าบางพลัด รถมากติดสะสม เนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ขณะที่ บริเวณถนนเส้นอื่น อาทิ รามคำแหงมุ่งหน้าพระราม 9 คลองตัน เคลื่อนตัวได้ช้า เจ้าหน้าที่ เปิดช่องทางพิเศษ สะพานกรุงธนฯ ข้ามแยกบางพลัด ถนนสิรินธรรถหนาแน่น สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน รถมากแต่เคลื่อนตัวได้

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 พบว่า มีประชาชน ตกค้างจำนวนมาก หลังจากเดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา เนื่องจาก รถแท็กซี่ เข้าไปรับมีจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เข้าไปรับผู้โดยสารแล้ว

ขณะที่ บรรยากาศจราจรบริเวณสะพานกรุงธนฝั่งขาเข้า ยังคงมีรถหนาแน่น เคลื่อนตัวช้า สลับหยุดนิ่ง แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จะเร่งระบายรถจากฝั่งขาเข้า ด้วยการเปิดถึง 3 ช่องทาง และช่องทางบนสะพานก็ตาม แต่ยังไม่สามารถระบายรถได้ทั้งหมด โดยท้ายแถวยังคงสะสมอยู่บริเวณ ถนนสิรินทร บริเวณฝั่งหน้าตั้งฮั่วเส็ง

สำหรับสภาพการจราจรบริเวณด้านหน้าโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ถ.วิภาวดี-รังสิต นั้น ปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากมีรถของผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลาน บริเวณด้านหน้าโรงเรียน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาการจราจรสะสมพอสมควร แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน ที่มาคอยโบกรถ และประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ปกครองนำรถส่งบุตรหลาน เฉพาะด้านหน้าโรงเรียน โดยให้รีบจอดส่ง และให้นักเรียนลงจากรถ โดยเร็วที่สุด

ข้อมูลจาก :

กทม.เก็บขยะแล้วกว่าแสนตันขณะเขตต่างๆเร่งทำการ ฟื้นฟู

กทม.เก็บขยะแล้วกว่าแสนตันขณะเขตต่างๆเร่งทำการฟื้นฟู

กทม.เก็บขยะแล้วกว่าแสนตัน เร่งจัดเก็บอีก13,400ตัน/วัน ให้ทันสิ้นปีนี้ ขณะที่บนถนนพหลฯมุ่งหน้าแยกคปอ.ยังมีขยะที่เกิดจากถุงทรายจำนวนมาก

กทม.เก็บขยะแล้วกว่าแสนตัน เร่งจัดเก็บอีก13,400ตัน/วัน
นายเกรียงพล พัฒนรัฐ รองผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการจัดเก็บขยะมากกว่าปกติเมื่อเกิดน้ำท่วม ประมาณ 13,400 ตันต่อวัน โดยจะต้องจัดเก็บให้กลับสู่ภาวะปกติให้ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่บนถนนพหลโยธินมุ่งหน้าแยกกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ หรือ คปอ.ยังมีขยะที่เกิดจากถุงทราย และคราบสกปรกค้างอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก รวมถึงบริเวณตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่และโดยรอบ ประชาชนนำขยะประเภทเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้อัดมาวางกองไว้ตามริมถนน ส่งกลิ่นเหม็นต่อประชาชนที่สัญจรบริเวณดังกล่าว

ผอ.เขตภาษีเจริญ เตรียมคัดแยกขยะรีไซเคิล
นายจตุรงค์ ผ่องลำเจียก ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ เปิดเผยว่า ในวันนี้ พื้นที่เขตภาษีเจริญ จะร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และสถานบันการศึกษา จะมีการคัดแยกขยะ เฟอร์นิเจอร์ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม นำไปรีไซเคิล โดยจะมีการนำไปคัดแยกว่า วัสดุชิ้นใดที่สามารถนำไปประดิษฐ์ เป็นชิ้นงานอื่น ๆ ได้ ก็จะมีการดำเนินการ

ชาวบางแคเริ่มฟื้นฟูช่วยเก็บกวาดขยะหลังน้ำลด
นางกองกาญจน์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเขตบางแค เปิดเผยว่า หลังจากระดับน้ำในพื้นที่ลดลงแล้ว วันนี้ ในพื้นที่ของเขตบางแค ก็จะมีการเก็บขยะ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ของเขตบางแคช่วยกันเก็บ เริ่มตั้งแต่ ถ.เพชรเกษม ตลอดแนว ต่อเนื่องไปจนถึง ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ในช่วงซอย 9 ด้วย

น้ำท่วมเมืองเอก ยังคงมีน้ำขัง 30-40 ซ.ม.
สถานการณ์น้ำท่วม ที่หมู่บ้านเมืองเอก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ขณะนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขัง สูงเฉลี่ยที่ประมาณ 30 - 40 ซ.ม. เนื่องจาก พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างและบางจุดเป็นที่ต่ำ มีน้ำท่วมสูง ประมาณ 50 ซ.ม. เนื่องจาก ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร ล่าสุดบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก มีการวางจุดระบายน้ำไว้ 3 จุด คือ บริเวณคลองเปรมประชากร จุดที่มหาวิทยาลังรังสิต รับผิดชอบ และจุดที่เทศบาล ต.หลักหก รับผิดชอบ โดยสามารถระบายน้ำเฉลี่ยลดลง วันละ 5 ซ.ม.

น้ำในหมู่บ้านเศรษฐกิจแห้ง เว้นปากซอย 58 ยังท่วมขัง 15 ซ.ม.
สถานการณ์น้ำระดับน้ำ บริเวณซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจในวันนี้นั้น ระดับน้ำได้ลดลงจนแห้งสนิท เกือบทั้งซอย ยกเว้นบริเวณวงเวียนที่ 3 ด้านปากซอยบริเวณ 58 ยังคงปริมาณน้ำท่วมขัง ประมาณ 15 ซ.ม. ส่วนระดับน้ำในลำคลองที่ผ่านบริเวณซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจระดับน้ำเริ่มเข้าสู่ ปกติ โดยประชาชน พอใจกับการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ของทางเขตบางแค ที่ให้ระดับน้ำลดลงได้ทัน ก่อนที่จะมีการเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ

กรมอุทกศาสตร์ เผย น้ำขึ้นเวลา 10.09 น. สูง 1.71 เมตร
กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แจ้งสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ดังนี้
- 1. เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2554 น้ำลงเต็มที่ เวลา 01.52 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 0.15 เมตร น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 08.46 น. สูงกว่าระดับ ทะเลปานกลาง 1.67 เมตร น้ำลงเต็มที่ เวลา 14.22 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.10 เมตร น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 17.34 น. สูงกว่าระดับทะเล ปานกลาง 1.28 เมตร
- 2. ในวันที่ 12 ธันวาคม 2554 คาดว่า น้ำลงเต็มที่ เวลา 02.54 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 0.10 เมตร น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 10.09 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.71 เมตร น้ำลงเต็มที่ เวลา 14.08 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.13 เมตร น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 18.00 น. สูงกว่าระดับ ทะเลปานกลาง 1.32 เมตร
- 3. ระดับน้ำที่ให้ไว้เป็นระดับ ซึ่งรวมระดับน้ำทะเลหนุนและอิทธิพลอื่น ๆ ไว้แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำ หรือ มีสภาวะอากาศที่ผิดปกติ ระดับน้ำอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้ได้

ข้อมูลจาก :

ABACโพลเผยปชช.มองเลือกตั้งปี54มีการทุจริต

ABACโพลเผยปชช.มองเลือกตั้งปี54มีการทุจริต

ABACโพลเผยปชช.มองเลือกตั้งปี54มีการทุจริต เชื่อนักการเมืองซุกเงินในบ้าน หวั่นแก้รัฐธรรมนูญจุดชนวนความขัดแย้ง

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า จากผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญและการลดแลกแจกแถมช่วงเลือกตั้ง ในหมู่ประชาชนกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 17 จังหวัดของประเทศพบว่า ประชาชน 89.7% มองว่าการมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยในประเทศเป็นเรื่องค่อนข้างดีถึงดีมาก มีเพียง 10.3%ที่คิดว่าไม่ค่อยดีถึงไม่ดีเลย

นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ 91.5% เห็นด้วยว่าการปกครองแบบประชาธิปไตยยังดีกว่าการปกครองในรูปแบบอื่นถึงแม้มี ปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นและความไม่เป็นธรรมในสังคม

อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการนำรัฐธรรมนูญปี2540มาใช้แทนรัฐ ธรรมนูญปี2550 พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 38.4%ไม่เห็นด้วยแต่จะไม่ชักชวนคนอื่นให้ออกมาคัดค้าน ขณะที่ 9.2% ไม่เห็นด้วยและจะชักชวนคนอื่นออกมาคัดค้าน ส่วนอีก 35.2% เห็นด้วยแต่จะไม่ชัดชวนคนอื่นให้ออกมาเรียกร้อง และ 17.2% เห็นด้วยและจะชักชวนคนอื่นออกมาเรียกร้องให้แก้ไข

"ประเด็นที่น่าเป็นห่วงต่อความคิดเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญก็คือกลุ่มที่ไม่เห็น ด้วยและเห็นด้วยมีสัดส่วนมากพอๆกันจนเกรงว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยก รุนแรงของคนในชาติได้"นายนพดลกล่าว

ผลสำรวจยังพบด้วยว่า กลุ่มตัวอย่าง 72.2% คิดว่าพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลมีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ประชาชนผู้ ใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงหาเสียง เช่น เงิน ของใช้ และทรัพย์สินอื่นๆ โดยแยกเป็น 24.4% คิดว่ามีการให้มาก และ 47.8% คิดว่ามีการให้บ้างตามลำดับ

ขณะที่ 66.5% ระบุว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านก้มีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ประชาชนผู้ใช้ สิทธิเลือกตั้งในช่วงหาเสียงเช่นกัน โดย 16.4%คิดว่ามีการให้มาก และ 50.1% คิดว่ามีการให้บ้าง

นายนพดลกล่าวอีกว่า กลุ่มตัวอย่าง 43.2% คิดว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมามีการแจกเงินให้สิ่งของบางอย่างแก่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี2551 ในขณะที่ 28.7% คิดว่าเท่าเดิมและ 28.1% คิดว่าน้อยกว่า

นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือ กรณีข่าวปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมและพบเงินสดจำนวนมากนั้น ผลสำรวจพบว่า ประชาชนกว่า 90% คิดว่ามีการซุกซ่อนเงินสดที่บ้านพักของกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการคนอื่นๆ อีก ในขณะที่ 8.3% เท่านั้นที่ไม่คิดว่ามี

ทั้งนี้ผลวิจัยดังกล่าวได้ทำการสำรวจประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 17 จังหวัดของประเทศได้แก่ กทม. แพร่ พิษณุโลก เชียงใหม่ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เลย ขอนแก่น อุดรธานี สุราษฎร์ธานี สตูล และพัทลุง จำนวน 1,994 ตัวอย่าง โดยดำเนินการระหว่างวันที่ 1-10 ธ.ค.

กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นหญิง 52.6% เป็นชาย 47.4% ส่วนใหญ่ 31.6% มีอายุ 50 ปีขึ้นไป รองลงมาได้แก่ 27.1% อายุ 40-49ปี และ 24.6% อายุ 30-39ปี โดย 31.6% ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป 29.3อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 10.3% พนักงงานบริษัทเอกชน ส่วนด้านการศึกษา 72.6%มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี 23.0% มีการศึกษาระดับปริญญาตรี 4.4%สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ข้อมูลจาก :

กทม.เผยแผนฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม

กทม.เผยแผนฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม

รองผู้ว่าฯกทม. เผย แผนยุทธศาสตร์ ฟื้นฟู เยียวยา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กทม. เร่งเยียวจิตใจและร่างกาย ปชช.

     พ.ญ.มาลินี สุขเวชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผย แผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟู เยียวยา ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดย กทม. จะเร่งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในทุกมิติอย่างรวดเร็ว พร้อมวางระบบบริหารจัดการน้ำท่วม และลดความสูญเสียของ กทม. ในอนาคต แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ มาตรการระยะสั้น 90 วัน , มาตรการระยะกลาง 1 ปี และมาตรการระยะยาว มากกว่า 1 ปี โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติการรองรับ พร้อมกำหนดกิจกรรมและระยะเวลาในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ในส่วนแผนระยะสั้น จะเร่งเยียวยาด้านร่างกายและจิตใจของประชาชน พร้อมเร่งสำรวจข้อมูล และการจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย สร้างโอกาสทางธุรกิจ เช่น การฝึกอาชีพ การจัดหาแหล่งงาน แหล่งเงินกู้ จัดสรรงบประมาณเร่งด่วนในการปรับปรุงทางกายภาพในพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ ปรับปรุงทางระบายน้ำ ภูมิทัศน์ บูรณะศาสนสถาน ซ่อมแซมโรงเรียน ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

     นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการฟื้นฟูระยะยาว จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการลำเลียงน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น อุโมงค์และระบบระบายน้ำต่างๆ ขุดลอกคลองขนาดเล็ก - ใหญ่ พร้อมปรับปรุงกฎหมาย ผังเมือง และกำหนดมาตรการดูแลผู้ถูกรอนสิทธิ สร้างระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการน้ำให้รองรับการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใกล้เคียง

ข้อมูลจาก :

เปิดใช้ถนนบรมราชชนนีช่องทางคู่ขนานตลอดสาย

เปิดใช้ถนนบรมราชชนนีช่องทางคู่ขนานตลอดสาย

กองบังคับการตำรวจจราจร แจ้งเปิดใช้ถนนบรมราชชนนีช่องทางคู่ขนานอย่างไม่เป็นทางการตลอดสาย ยังเหลือปิดถนนพุทธมณฑลสาย 3 เพียงเส้นทางเดียว

ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งข้อมูลเส้นทางที่ยังคงปิดการจราจรขณะนี้ เหลือเพียง 1 เส้นทาง คือ ถนนพุทธมณฑลสาย 3 มีน้ำท่วมขังตลอดสาย ระดับน้ำ 20 - 30 เซนติเมตร ส่วนถนนบรมราชชนนี ทั้งขาเข้าและขาออก เปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการได้แล้ว โดยเปิดให้สัญจรในช่องทางคู่ขนานตลอดสายถึงสุดเขตนครบาล แต่ในช่องทางด่วน ทั้งขาเข้าและขาออก ยังมีน้ำท่วมขังเป็นระยะประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า สถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร จะเปิดเทอมเต็มรูปแบบ และหลายแห่งอาจเปิดเรียนเสริมช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ อาจทำให้ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น กองบังคับการตำรวจจราจร จึงประเมินจราจรรับเปิดเทอมช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับแก้ปัญหา ด้วยการประสานสถานศึกษาจัดครู รุ่นพี่ รับส่งรุ่นน้อง ขอความร่วมมืออย่าจอดรถซ้อนคัน

ข้อมูลจาก :

ระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ระดับน้ำคลองในกทม.ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ระดับน้ำในพื้นที่กทม.ลดลงต่อเนื่องคลองหกวาสายล่างนอกเขตกทม.ลดลง7 ซม. ด้านดอนเมืองลดลง8 ซม. คลองมหาสวัสดิ์ลดลง6 ซม.

ระดับน้ำในพื้นที่กทม.ลดลงต่อเนื่อง
กทม.รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 8 ธันวาคม ว่า ระดับน้ำในพื้นที่่ที่น่าพอใจคือ คลองหกวาสายล่างนอกเขตกทม.ลดลง7 ซม. ด้านดอนเมืองลดลง8 ซม. คลองมหาสวัสดิ์นอกเขตกทม.ลดลง6 ซม. ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรี คลองบางพรหมน้ำล้นตลิ่งเสมอขอบ คลองบางแวกเสมอลด 4-5ซม. และคลองบางเชือกหนังลด 7ซม.

ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำในคลองสายหลักในพื้นที่กทม. คือคลองแสนแสบ น้ำลดลง2-5ซม. คลองประเวศลดลง1-2ซม. ลาดพร้าวลดลง2-4ซม. คลองเปรมประชากร ลดลง 5ซม. บางเขนลดลง3-5ซม. ฝั่งธนบุรีตอนบนลดลง 2-3ซม.

ซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถึงคลองบางจาก น้ำแห้งแล้ว
สถานการณ์น้ำท่วมในซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจระดับน้ำได้แห้งลง บริเวณปากซอยไปจนถึงคลองบางจาก แต่หลังจากคลองบางจาก นับตั้งแต่บริเวณซอย 4 เป็นต้นไปนั้น ภายในซอยระดับน้ำยังคงท่วมสูงอยู่กว่า 20 - 30 ซ.ม. ทำให้การเดินทางเข้า - ออกของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก

บิ๊กคลีนนิ่งเดย์สวนอุตสาหกรรมบางกะดี
สถานการณ์น้ำท่วมภายในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี แห้งสนิทแล้ว หลังถูกน้ำท่วมเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนสูงกว่า 3 เมตร ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม 44 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ และแรงงานกว่า 3 หมื่นคน ต้องตกงานเนื่องจากโรงงานไม่สามารถดำเนินการผลิตได้

อย่างไรก็ตามทางเทศบาลตำบลบางกะดี ได้จัด ทำความสะอาดถนนในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี และพร้อมจะทำความสะอาดบิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ ครั้งใหญ่ทั้งสวนอุตสาหกรรมอีกครั้งถ้าทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ

ข้อมูลจาก :